5 ล้านบาทได้ในปี 2565 หรือกลับมาได้ประมาณ 80% ของรายได้รวมในปี 2563 โดยคาดว่าจะเป็นรายได้ตลาดต่างประเทศ 1. 3 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 20. 8 ล้านคน และตลาดไทยเที่ยวไทยประมาณ 1. 2 ล้านคน จากการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยที่ 180 ล้านคน-ครั้ง อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามานั้นยังต้องขึ้นอยู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ความคืบหน้าของวัคซีน รวมถึงนโยบายของประเทศต้นทางด้วยว่าอนุญาตให้คนของเขาเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ "ยุทธศักดิ์" ยังบอกด้วยว่า นับจากนี้ ททท. จะมุ่งทำตลาดเพื่อดึงนักท่องเที่ยว "กลุ่มคุณภาพ" มากขึ้น ด้วยการเน้นการเพิ่มการใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของนักท่องเที่ยวต่างชาติและของคนไทยให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการชดเชยจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนลดลง โดยตั้งเป้าว่าในปี 2565 ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มจากประมาณ 47, 000 บาท เป็น 62, 000 บาท ส่วนคนไทยจะเพิ่มจาก 4, 700 บาท เป็น 4, 900 บาท พร้อมทั้งมุ่งสร้างตลาดใหม่และกระตุ้นตลาดในประเทศให้มากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาตลาดต่างประเทศ รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว…
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ) ได้ตั้งเป้ารายได้ของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยไว้เมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมาว่า ปี 2563 ประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมไว้ที่ 3. 18 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็น ตลาดต่างประเทศ 2. 02 ล้านล้านบาทจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40. 8 ล้านคน และตลาดไทยเที่ยวไทย 1. 16 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวไทย 172 ล้านคน-ครั้ง ถึงเวลานี้ "ยุทธศักดิ์ สุภสร" ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ) ให้ข้อมูลว่า ททท.
สุขลักษณะอาคารและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่มีอยู่ในอาคาร 2. การจัดอุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค และ 3. การป้องกันสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้มีรายละเอียดของมาตรฐานเฉพาะประเภทกิจการเพิ่มเติม โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจะได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ต่อไป และนับตั้งแต่เปิดตัวมาตรฐาน SHA เมื่อเดือน พ. ค. 2563 จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธ. ที่ผ่านมา มีสถานประกอบการท่องเที่ยวลงทะเบียนแล้ว 9, 587 แห่ง และผ่านเกณฑ์มาตรฐานได้รับตราสัญลักษณ์ SHA แล้ว 7, 665 แห่ง โดยอยู่ในกรุงเทพฯมากที่สุด 2, 514 แห่ง ตามมาด้วยภูเก็ต 1, 126 แห่ง และเชียงใหม่ 863 แห่ง สะท้อนถึงชื่อเสียงของมาตรฐาน SHA ที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างต้องการเข้าร่วมโครงการเพื่อรับตราสัญลักษณ์จำนวนมาก และพร้อมจะดำเนินตามมาตรฐานอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้ภาคท่องเที่ยวถูกครหาว่าเป็นสาเหตุการระบาดซ้ำของโรคโควิด-19
7 ล้านคน ในขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเดินทางเที่ยวในประเทศราว 95-100 ล้านคน-ครั้ง ส่งผลให้รายได้รวมจากการท่องเที่ยหดตัวเหลือแค่ 7.
ยังได้นำจุดแข็งของประเทศที่สะท้อนจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มาเป็นแนวทางหลักในการทำการตลาดเพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภายใต้แรงกดดันของสถานการณ์โลกที่มีความผันผวน รวมทั้งความเสียหายของสภาพแวดล้อมจากน้ำมือมนุษย์ที่มีผลต่อธรรมชาติ อันเป็นทรัพยากรสำคัญของการท่องเที่ยว อีกทั้ง ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูลข่าวสาร ที่ ททท. ต้องก้าวให้ทันและนำมาใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในปี 2563 ททท. จะมุ่งสร้างความเชื่อมั่นในคุณค่าของ Brand ประเทศไทย โดยผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบให้เป็นรูปธรรมในทุกมิติของการสื่อสารและลงมือปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการรับรู้และตระหนักในวงกว้าง ผ่านช่องทางของอนุสาร อ. ส. ท. เพื่อให้มั่นใจในสินค้าและบริการที่ ททท. นำเสนอด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มรูปแบบการเดินทาง รวมไปถึงการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์การให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในแง่มุมของกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรและไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมและสังคม ททท.
-9ส. 2563)และ เวิลด์ เอ็กซ์โป2020ที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (20ต. 2563 – 10เม. 2564)และการแข่งขันสูงทางการท่องเที่ยว เนื่องจากหลายประเทศหันมาตั้งเป้าสร้างรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว และเน้นออกมาตรการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าแก่นักท่องเที่ยว อาทิFree VisaและE-Visaเช่น ไต้หวัน เวียดนาม จอร์เจีย นายยุทธศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านแนวโน้มตลาดในประเทศปี2563ททท. มองว่าปัจจัยหนุนของตลาดไทยเที่ยวไทย มาจากการสานต่อนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวกระจายสู่เมืองรอง การทยอยเปิดโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ รถไฟทางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่น, เส้นทางมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี, เส้นทางมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา, เส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม และสนามบินเบตง จ. ยะลา โดยมีกิจกรรมส่งเสริมตลาดของ ททท. ช่วยขับเคลื่อน เช่น โครงการ60เส้นทางความสุข@เมืองไทย เดอะซีรีย์ และโมโต จีพี2020 "เศรษฐกิจ โลกชะลอ " ท้าทายท่องเที่ยว ส่วนปัจจัยความท้าทาย ยังคงเป็นเรื่องของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง รวมถึงการแข่งขันด้านท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากประเทศในโซนเอเชีย อาทิ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เช่น การยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทย การเปิดเส้นทางบินใหม่ของสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ซึ่งเอื้อต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวและจับจ่ายในต่างประเทศมากขึ้น หลังจากในช่วง11เดือนแรกของปีนี้(ม.
เผยแพร่: 8 ก. ค. 2562 23:46 ปรับปรุง: 9 ก. 2562 00:56 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ ททท. เผยแผนท่องเที่ยวปี 63 ชูการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบให้เป็นรูปธรรมในทุกมิติ เน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ควบคู่ไปกับการเดินหน้านำเสนอสินค้าและบริการที่สามารถชูเอกลักษณ์วิถีไทยที่ทรงเสน่ห์ ตั้งเป้ารักษาตำแหน่งประเทศที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก สร้างรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% หรือประมาณ 3. 71 ล้านล้านบาท นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ) ประธานในการแถลงทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของ ททท. ปี 2563 เปิดเผยว่า ในปี 2563 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ททท. ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการตลาด จึงต้องแสวงหาแนวทางในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุความคาดหวังของรัฐบาล โดย ททท. ประเมินตัวเลขการเติบโตของปริมาณและรายได้จากการท่องเที่ยว ปี 2562 ซึ่งยังคงมีอัตราที่น่าพอใจ (อยู่ในแดนบวก) และได้กำหนดทิศทางการเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจากการท่องเที่ยว Mass Tourism เข้าสู่การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ซึ่งเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ทั้งนี้ การปรับตัวเลขอัตราการเติบโต เพื่อนำไปสู่การวางแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มรายได้เป็นสำคัญ อีกทั้ง การจัดทำทิศทางฯ ปี 2563 นี้ ททท.
ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 1คือ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนมกราคม และเริ่มรุนแรงยิ่งขึ้นในเดือนมีนาคม ตามด้วยการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ, ปัญหาคุณภาพอากาศ (PM 2. 5), ปัญหาภัยแล้งในทุกภาคของประเทศ และการประกาศใช้ พ. ร. บ.