การถามคำถามเป็นวิธีพื้นฐานในการรวบรวมข้อมูล แต่ก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ คุณจำเป็นต้องมีทักษะร่วมด้วย การถามคำถามปลายเปิด เป็นวิธีอันเป็นมิตรในการดึงความสนใจคู่สนทนา การเข้าใจความแตกต่างระหว่างคำถามปลายเปิดและปลายปิด จะช่วยคุณได้อย่างมากมายในชีวิตทางสังคมและหน้าที่การงาน ส่วน 1 ของ 2: เข้าใจลักษณะคำถามปลายเปิด 1 รู้จักคำถามปลายเปิด. ก่อนที่คุณจะสามารถเริ่มถามคำถามปลายเปิดได้ คุณต้องรู้ก่อนว่า มันคืออะไร คำถามปลายเปิดเป็นคำถามที่บังคับให้ผู้ตอบต้องตอบแบบเต็มประโยค จากความคิดและความรู้สึกของตัวเอง คำถามเหล่านี้มีความเป็นกลาง ไม่ได้ชี้นำคนที่ถูกถาม และนำไปสู่การตอบด้วยคำหลายคำ [1] ตัวอย่างคำถามปลายเปิด คือ: "เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ฉันออกไปแล้ว" "ทำไมคุณต้นถึงออกไปก่อนคุณตาล" "ไหนลองเล่าบรรยากาศที่ทำงานให้ฟังหน่อย" "คุณคิดอย่างไรกับรายการนี้ในซีซั่นใหม่" 2 อย่าถามคำถามปลายปิด. คำถามปลายปิด จะถูกตอบด้วยคำสั้นๆ หรือคำๆ เดียว มันใช้ในการถามเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงและข้อมูลจำเพาะบางอย่าง [2] ตัวอย่างของคำถามปลายปิด คือ: "เธอจะเลือกใคร" "รถของคุณยี่ห้ออะไร" "คุณคุยกับวิชัยหรือยัง" "คุณนนท์ออกไปกับคุณก้อยหรือเปล่า" "ทุกคนได้กินเค้กกันหมดแล้วใช่มั้ย" คำถามปลายปิดจะทำให้การสนทนาชะงัก มันไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นได้ใคร่ควรญ คุยเรื่องของพวกเขา หรือช่วยให้ผู้ถามรู้เรื่องใดๆ เกี่ยวกับคนที่ถูกถามเลย 3 ตระหนักในลักษณะของคำถามปลายเปิด.
คำถามปลายเปิดอาจจะดูเปิดกว้างมากเกินไปในบางครั้ง การเลือกใช้คำมีความสำคัญมาก เวลาที่จะถามคำถามปลายเปิด โดยเฉพาะเวลาที่คุณมองหาคำตอบอันจำเพาะเจาะจงบางอย่าง [7] หากคุณต้องการจัดการนัดบอดให้เพื่อน คุณอาจจะถามพวกเขาว่า "คุณมองหาคุณสมบัติใดในตัวอีกฝ่าย" ซึ่งพวกเขาอาจจะตอบโดยการพรรณาลักษณะทางกาย ทั้งๆ ที่คุณถามเขาเกี่ยวกับเรื่องบุคลิกภาพ ดังนั้น คุณควรใช้คำกำหนดขอบเขตให้แคบลงมาหน่อย เช่น "บุคลิกภาพแบบไหนที่คุณมองหาในตัวอีกฝ่าย": ถามแบบรูปทรงกรวย.